🔬 SERS คืออะไร รู้จักเทคนิคที่ "ขยาย" สัญญาณเพื่อการวิเคราะห์ระดับโมเลกุล
- Anyathip
- 2 พ.ย.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 6 วันที่ผ่านมา

ในโลกของวิทยาศาสตร์การวิเคราะห์ การระบุชนิดของโมเลกุลต่างๆ ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่ง และเทคนิค Raman Spectroscopy (รามานสเปกโตรสโกปี) ก็เปรียบเสมือนเครื่องมือชั้นยอดที่ช่วยให้เรา
"อ่านลายนิ้วมือโมเลกุล" (Molecular Fingerprint) ได้โดยไม่ทำลายตัวอย่าง
อย่างไรก็ตาม เทคนิครามานแบบดั้งเดิมมีข้อจำกัดที่สำคัญมาก นั่นคือ สัญญาณที่ได้นั้นอ่อนมาก (โดยเฉลี่ย มีเพียง 1 ใน 10 ล้านโฟตอนเท่านั้นที่จะกระเจิงแบบรามาน) ทำให้การตรวจวัดสารที่มีความเข้มข้นต่ำมากๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เพื่อแก้ปัญหานี้ นักวิทยาศาสตร์จึงได้พัฒนาเทคนิคที่ทรงพลังยิ่งขึ้นชื่อว่า SERS (Surface-Enhanced Raman Spectroscopy) หรือ "เทคนิครามานสเปกโตรสโกปีแบบเพิ่มประสิทธิภาพบนพื้นผิว"
💡 SERS ทำงานอย่างไร
หัวใจของ SERS คือการ "โกง" ฟิสิกส์เล็กน้อย โดยอาศัยพื้นผิวพิเศษ (SERS substrate) ที่มักทำจาก อนุภาคนาโนของโลหะ (เช่น ทองคำ หรือ เงิน)
ลองนึกภาพตามง่ายๆ:
1. รามานปกติ: เหมือนเราพยายามฟังเสียงกระซิบของโมเลกุลในห้องที่เสียงดัง สัญญาณเบามากจนแทบไม่ได้ยิน
2. SERS: เราให้ "โทรโข่ง" กับโมเลกุลนั้น โดยการนำโมเลกุลไปวางไว้บนพื้นผิวนาโนพิเศษ
"โทรโข่ง" นี้ทำงานผ่านปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Surface Plasmon Resonance (SPR)
เมื่อแสงเลเซอร์ (ที่ใช้ในเครื่องรามาน) ยิงไปกระทบอนุภาคนาโนโลหะ มันจะกระตุ้นให้อิเล็กตรอนอิสระบนผิวโลหะเกิดการสั่นพ้อง (เรียกว่า พลาสมอน) ปรากฏการณ์นี้จะสร้าง สนามแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มสูง ขึ้นมาในบริเวณที่โมเลกุลเกาะอยู่พอดี
สนามไฟฟ้าที่เข้มข้นนี้เองที่ไป "ขยาย" สัญญาณรามาน (เสียงกระซิบ) ของโมเลกุลให้ดังขึ้นอย่างมหาศาล—เพิ่มความแรงของสัญญาณได้ตั้งแต่ 1 แสนเท่า ไปจนถึงหลายพันล้านเท่า!
✨ จุดเด่นที่ทำให้ SERS ทรงพลัง
การขยายสัญญาณได้อย่างมหาศาลนี้ ทำให้ SERS มีข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าเทคนิครามานแบบเดิมอย่างชัดเจน:
ความไวสูง (Ultra-High Sensitivity): สามารถตรวจวัดสารได้ในระดับความเข้มข้นต่ำมากๆ (เช่น ระดับ parts-per-billion หรือ ppb) และในบางกรณี สามารถตรวจจับได้ถึง ระดับโมเลกุลเดี่ยว (Single-Molecule Detection)
ความจำเพาะสูง (High Specificity): ยังคงคุณสมบัติ "ลายนิ้วมือโมเลกุล" ของรามานไว้ ทำให้รู้แน่ชัดว่าสารที่เจอคืออะไร
ไม่ต้องเตรียมตัวอย่างที่ซับซ้อน: สามารถวิเคราะห์ตัวอย่างในรูปแบบของเหลวหรือของแข็งได้โดยตรง และทำงานได้ดีในสภาวะที่มีน้ำ (ซึ่งเทคนิคอื่นอาจทำได้ยาก)
🌍 SERS ถูกนำไปใช้อะไรบ้าง
ด้วยความสามารถในการ "มองเห็น" สิ่งที่น้อยมากๆ SERS จึงถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายวงการ:
การแพทย์และชีววิทยา: ใช้เป็นเซ็นเซอร์ตรวจหาตัวบ่งชี้มะเร็ง (Cancer markers) ในเลือด, ตรวจหาไวรัส หรือแบคทีเรีย, วิเคราะห์ DNA และโปรตีน
สิ่งแวดล้อม: ตรวจหาสารปนเปื้อนในน้ำดื่ม เช่น ยาฆ่าแมลง หรือ โลหะหนัก ในปริมาณที่น้อยมากๆ
นิติวิทยาศาสตร์: ตรวจพิสูจน์หลักฐานที่เป็นร่องรอยขนาดเล็ก เช่น คราบยาเสพติด หรือ วัตถุระเบิด ที่หลงเหลือในที่เกิดเหตุ
อุตสาหกรรมอาหาร: ตรวจหาสารเคมีตกค้าง หรือสารก่อภูมิแพ้ในอาหาร
วัสดุศาสตร์: ใช้วิเคราะห์ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวของวัสดุในระดับนาโน
SERS ไม่ใช่แค่การ "อัปเกรด" เทคนิครามานแบบเดิม แต่คือการ "ปฏิวัติ" ที่เปิดประตูให้เราสามารถตรวจวัดและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ในระดับโมเลกุลที่ความเข้มข้นต่ำมากๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการตรวจวัดในอนาคต




ความคิดเห็น